VARENN

ความตั้งใจตอนแรกคือ หากันแดดที่เอาไว้ดำน้ำ ออกทะเล แบบไม่มีสารอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล ไม่วอกขาวๆ ในตอนนั้น กันแดดในไทย ที่ลงน้ำได้หาค่อนข้างยาก ราคาแพงด้วย ปกติจะสั่งจากต่างประเทศเข้ามา เลยเป็นที่มา อยากเราอยากทำกันแดด ที่ขึ้นบก ลงน้ำ จะทำกิจกรรมไหนๆก็ได้ ด้วยความเป็นคนชอบใช้ออยล์ บำรุงผิวอยู่แล้ว เลยคิดว่าทำไมจะต้องพกเครื่องสำอางไปหลายๆชิ้น อยากให้มี 2 in 1 ที่แบบจะทาก่อนออกแดด หรือก่อนนอนก็ได้ 

สินค้าขายดี

VARENN ออยล์กันแดดสายธรรมชาติแบบ 2 in 1

แรงบันดาลใจของแบรนด์เริ่มต้นจากการมองหาผลิตภัณฑ์กันแดดที่ไม่ใช่เพียงแค่กันแดดอย่างเดียว แต่ยังต้องบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกด้วย จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดในรูปแบบออยล์บำรุงผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งหยาบกร้าน รู้สึกไม่เรียบเนียน หรือคนที่มีผิวปกติ/ไม่มีปัญหาผิวเลยก็ใช้ได้ แม้แต่คนผิวมันก็ใช้ได้เช่นกัน ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะทำให้ผิวมันเพิ่มแต่อย่างใด กลับกันผลิตภัณฑ์กันแดดจากแบรนด์มีสารบำรุงเข้มข้นที่เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ ดูดซึมได้ง่าย ไม่มีความมันและไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน ทาแล้วลงน้ำ ดำน้ำ ออกทะเล เดินชิลล์บนบก ก่อนออกแดด หรือก่อนนอนก็ทาได้ เวิร์คหมด ที่สำคัญไม่มีสารอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลเลย

ส่วนผสมสำคัญที่อยู่ใน VARENN มีดีอย่างไร

เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แบรนด์จึงเน้น 3 เรื่องสำคัญที่กันแดดต้องมี นั่นคือ หนึ่ง : การมีค่า SPF สูง เพื่อป้องกันผิวให้ยาวนานตลอดวัน ดังนั้นค่า SPF50 ที่มีสามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ยาวนานมาก สอง : มีค่า PA สารปกป้องแสง UVA หรือส่วนผสมสำคัญของกันแดดเพื่อให้ติดทนผิวนานยิ่งขึ่น ซึ่งแบรนด์ก็มีถึง PA+++ หมายถึงป้องกันรังสี UVA ได้ 6-8 เท่าเลยทีเดียว และสาม ส่วนผสมที่มีควรเน้นแต่สารสกัดจากธรรมชาติ 100% เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยกับผิวสูงสุด แม้ผิวบองบางก็ควรใช้ได้ ซึ่งทั้งสามข้อนี้ VARENN มีครบ

ผลิตภัณฑ์ที่มากกว่าการปกป้องผิวจากแสงแดด

หากถามว่าออยล์กันแดดยี่ห้อไหนดี ขอบอกว่า VARENN Sunscreen Body Oil SPF50 PA+++ คือหนึ่งในคำตอบของทุกคน เพราะส่วนผสมที่เป็นมิตรกับทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบาง หรือผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์ 3 เดือนขึ้นและผิวเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ให้สัมผัสเบาสบาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ทิ้งความเหนอะหนะติดผิว โดยคุณสมบัติสุดโดดเด่นไม่ใช่เพียงแค่กันแดด แต่ยังบำรุงล้ำลึก ปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะด้วยค่าเอสพีเอฟ 50 พีเอ +++ จะแสงไหนผิวเราก็ปลอดภัยได้ หรือสารบำรุงเข้มข้นที่เป็นผลผลิตจากธรรมชาติของแบรนด์อย่าง Grape Seed Oil, Baobab Oil, Kalahari Melon Seed Oil และ Salicornia Herbacea Extract นั้นก็ดีต่อผิวอย่างยิ่ง ที่สำคัญไม่มีการทดลองในสัตว์ ไม่ทำร้าย ecosystems รอบตัว

เปิดขั้นตอนสำคัญ VARENN ในการลงกันแดดให้ดี ปกป้องผิวยาวนาน

แบรนด์ขอแนะนำขั้นตอนดี ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์กันแดดเกิดประสิทธิภาพสูงสุดตลอดวันอย่างแท้จริง ได้แก่ วันที่เราไม่ออกแดดก็ควรทากันแดดเสมอ เพราะรังสีจากแสงอยู่รอบตัวเราแม้อยู่ในบ้านก็โดนอยู่ดี ดังนั้นทาครีมกันแดดให้เป็นนิสัยดีที่สุด, ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15 นาทีขึ้นไป หากรู้ตัวว่าต้องสัมผัสน้ำก็ควรทาซ้ำทุก 2 ชม. หรือทุก 80 นาที แต่ก่อนนั้นต้องมีการเช็ดตัวให้แห้งก่อนแล้วรอ 15 นาทีค่อยโดนน้ำต่อ, ไม่ควรใช้กันแดดทาผิวกายมาใช้กับผิวหน้า เพราะความบอบบางของผิวและรูขุมชนมีความต่างกัน และห้ามใช้กับผิวหนังที่มีบาดแผล เพื่อไม่ให้ผิวอักเสบเพิ่ม หากทำได้ตามนี้รับรองว่าผิวสวยจะอยู่กับเราไปอีกนาน

close

Wishlist