"
ทุกคนคงรู้กันดีแล้วว่า “มอยส์เจอไรเซอร์” เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญและจำเป็นต่อการบำรุงผิวของเรา เพราะทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ฟื้นฟูผิวแห้งเสีย ตลอดจนปรับสมดุลความชุ่มชื้นและความมันใต้ชั้นผิว เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำและสุขภาพดี ปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งแปลกปลอมภายนอก ลดปัญหาผิวอักเสบ รวมถึงสัญญาณผิวแก่ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวหย่อนคล้อย ขาดคามชุ่มชื้น เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีโอกาสเกิดได้ง่ายมากเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและไขมันตามธรรมชาติของร่างกายเริ่มถดถอย ดังนั้น การทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำ จึงเป็นเคล็ดลับในการคงความอ่อนเยาว์และดูแลสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้นแข็งแรงได้ดีมาก ๆ
ส่วนผสมในมอยส์เจอไรเซอร์ทำหน้าที่อะไรบ้าง
มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ส่วนผสมในมอยส์เจอไรเซอร์จำเป็นต้องมีคุณสมบัติแตกต่างกันในการรักษาความชุ่มชื้นแก่ผิว จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยสารทั้งสามกลุ่มนี้มักจะผสมอยู่ในมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อทำหน้าเสริมกันให้ดียิ่งขึ้น
1.กลุ่ม Occlusive
Occlusive เป็นกลุ่มสารป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิวเอาไว้ ปิดปั้นไม่ให้น้ำภายในชั้นผิวซึมออกสู่ภายนอก ล็อความชุ่มชื้นผิว เสมือนเป็นปราการปกป้องผิว ช่วยลดการสูญเสียน้ำ ส่วนใหญ่เป็นสารเนื้อหนักและเข้มข้น เช่น สารสกัดน้ำมันธรรมชาติ (Natural Oil), วิตามิน E (Tocopherol), Squalane และ Cholesterol เป็นต้น
2.กลุ่ม Humectant
Humectant เป็นกลุ่มสารช่วยดูดซับความชุ่มชื้นมาให้ผิว หรือดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำหน้าที่จับความชุ่มชื้นในอากาศ สภาพแวดล้อม และดูดซับเข้าสู่ชั้นผิวของเรา เสมือนการเติมน้ำให้ผิว เช่น Hyaluronic Acid, Glycerin, Betaine, Panthenol และ Collagen เป็นต้น แต่ข้อควรระวังคือ การใช้สารกลุ่มนี้บำรุงในช่วงที่อากาศแห้งมาก ๆ หากความชื้นในอากาศไม่เพียงพอ Humectant จะทำงานกลับกัน คือ พยายามดึงน้ำจากชั้นผิวของเราขึ้นมาที่ผิวหนังกำพร้าแทน ดังนั้น มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีควรมีส่วนผสมของสารกลุ่ม Humectant และ Occlusive ทำงานควบคู่กันไป จึงจะช่วยเติมน้ำ คงความชุ่มชื้น และลดปัญหาผิวแห้งกร้านได้ดีที่สุด
3.กลุ่ม Emollient
Emollient เป็นกลุ่มสารบำรุงผิวเรียบเนียน อ่อนนุ่ม ทำหน้าที่เคลือบร่องผิวชั้นหนังกำพร้า (ผิวชั้นบนสุด) ซึมเข้าสู่ผิวเสริมความชุ่มชื้นแก่ Skin Barrier และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีระดับหนึ่ง เช่น Ceramides, Glyceryl Sterate, Fatty Acid และ Shea Butter เป็นต้น
ประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์
มอยส์เจอไรเซอร์มีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติของเนื้อสัมผัส ความเข้มข้น และการซึมซาบเข้าสู่ผิวแตกต่างกันไป ซึ่งสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราได้
1.มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีม
เนื้อสัมผัส (Texture) จะมีความเข้มข้น หนาแน่นสูง ช่วยคงความชุ่มชื้นแก่ผิวได้สูงสุด ส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก ค่อยซึมซาบสู่ผิว
2.มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อโลชั่น
เนื้อสัมผัสคล้ายเนื้อครีม แต่มีความเหลวและบางเบากว่า มีส่วนผสมของน้ำมันน้อยกว่า ซึบซาบสู่ผิวได้ไว
3.มอยส์เจอไรเซอร์เนื้ออิมัลชั่น (Emulsion)
เนื้อสัมผัสเข้มข้นแต่บางเบา มักมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ ซึมผิวได้ไว เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อลิควิด เนื้อน้ำนม เนื้อเอสเซนส์ที่มีความข้นมันเล็กน้อย
4.มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจล
เนื้อสัมผัสค่อนข้างหนาแน่น แต่บางเบา ไม่หนักผิว เพราะมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ ซึมผิวได้ดีและรวดเร็ว โอกาสอุดตันน้อย
5.มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเซรั่ม
เนื้อสัมผัสเป็นของเหลว บางเบา อาจมาในรูปแบบของน้ำ น้ำมัน หรือเจลที่มีความหนืดเล็กน้อย สารบำรุงมีความเข้มข้น ซึมซาบสู่ผิวได้ไว และบำรุงผิวได้ล้ำลึก
เลือกมอยส์เจอไรเซอร์อย่างไรให้เหมาะกับผิว
คนผิวมัน ผิวผสม
ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของ “น้ำ” เป็นหลัก จะช่วยให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ลดความมันผิว ลดโอกาสอุดตัน เช่น เนื้อเจล เนื้อโลชั่น เนื้อเซรั่ม
คนผิวแห้ง
ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของ “น้ำมัน” เป็นหลัก จะช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นผิว ให้ความชุ่มชื้นสูง เติมน้ำให้ชั้นผิว ลดผิวแห้งกร้าน เช่น เนื้อครีม เนื้อโลชั่น เนื้ออิมัลชั่น
คนผิวเป็นสิว
ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของ “น้ำ” เป็นหลัก และควรมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่ช่วยลดโอกาสเกิดสิว ลดผิวอักเสบ ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียก่อสิว และปลอบประโลมผิวให้แข็งแรง หากเลือกใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ประเภทเนื้อครีม ควรเป็นครีมเนื้อบางเบา ไม่มันเกินไป และมีส่วนช่วยลดการอุดตันรูขุมขน
แนะนำ 4 มอยส์เจอไรเซอร์จาก SKIN1004
SKIN1004 เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากประเทศเกาหลีใต้ ที่คัดสรรและเลือกใช้ Centella Asiatica Extract คุณภาพสูงจากเกาะมาดากัสการ์ แหล่งปลูกใบบัวบกที่ดีที่สุดในโลก มาเป็นส่วนผสมสำคัญในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ และถูกใช้เป็นส่วนผสมหลักของมอยส์เจอไรเซอร์ทุกตัวของ SKIN1004 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ปลอบประโลม และฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง วันนี้ เราจะมาแนะนำกันว่า 4 มอยส์เจอไรเซอร์ของ SKIN1004 ตัวไหนเหมาะกับผิวแบบไหน เอาไปเลือกใช้กันได้เลย
มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวมัน ผิวผสม
ครีมเนื้อเจลสีน้ำผึ้ง บางเบา ช่วยเสริมปราการปกป้องผิวแข็งแรง ปลอบประโลมผิว ช่วยคุมมัน มอบความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดเลือนรอยแดง รอยสิว เนื้อเจลซึมผิวไว ไม่เหนอะหนะผิว แนะนำเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มผิวเป็นสิวง่าย มีรอยแดง
2.TONE-BRIGHTENING Capsule Cream
ครีมเนื้อสีขาว มีความฉ่ำน้ำ บางเบา มีส่วนผสมของเม็ดแคปซูลขนาดเล็กจิ๋วที่ล็อคสารสกัดมาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) จากใบบัวบก ตัวช่วยฟื้นบำรุงผิวชุ่มชื้นกระจ่างใสเอาไว้ มอบความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และลดเลือนผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยสิว โดยไม่ทิ้งความมัน ไม่เหนอะหนะผิว
มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแห้ง
ครีมเนื้อเหลว ชุ่มฉ่ำ บางเบา ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวสูง เติมน้ำแก่ผิวได้อย่างล้ำลึก ลดผิวแห้งกร้าน ผิวโทรม และเสริมคอลลาเจนแก่ชั้นผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวอิ่มน้ำฉ่ำโกลว ดูสุขภาพดี คืนความกระจ่างใสให้ผิว เนื้อครีมซึมไว สบายผิว
ครีมเนื้อเข้มข้น แต่บางเบา ไม่หนักผิว มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิว ฟื้นบำรุงผิวแห้งเสีย ผิวลอกเป็นขุย ให้กลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดี ดูกระจ่างใส และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นผิวได้ดีมาก ลดโอกาสเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ
แนะนำเป็นพิเศษสำหรับคนที่ผิวแห้งเสีย ผิวอ่อนแอ มีรอยแดงจากภาวะระคายเคืองง่าย ควรบำรุงด้วย Centella Cream ในตอนกลางคืน สลับกับ Soothing Cream ในตอนเช้า เพื่อประสิทธิภาพในการกู้คืนผิวแข็งแรงสุขภาพดีที่เห็นผลยิ่งขึ้น
มอยส์เจอไรเซอร์ นับเป็นไอเทมพื้นฐานที่ทุกคนควรมีไว้ติดตัว และไม่ละเลยที่จะหยิบมาบำรุงผิวเป็นประจำ เพราะผิวแข็งแรงสุขภาพดี คือผิวที่มีความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ จึงจะช่วยให้ปราการป้องกันผิวแข็งแรงจากภายใน ช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาผิวอักเสบ เป็นสิว และปัญหาผิวแก่ก่อนวัยได้ เมื่อบำรุงผิวดีแล้ว ต้องอย่าลืมทาครีมกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวเป็นประจำด้วยนะคะ
"