"
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Centella, CBD, Hemp, Mullein และ Plant Placenta ผ่านหูกันมาบ้างแล้ว ไปทำความรู้จัก 4 สารสกัดในสกินแคร์ที่กำลังมาแรงให้มากขึ้นกันค่ะ
1. Centella
Centella Asiatica ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Leaf of Life” ที่คนพื้นเมืองใช้ในการรักษาปัญหาผิวสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยแหล่งที่ดีที่สุดคือเกาะมาดากัสการ์ เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศและอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ย 23-27°C ความสูง 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นสภาวะที่ทำให้ Centella Asiatica เติบโตและมีคุณภาพสูงสุด ที่ไม่สามารถพบได้จากที่อื่น
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ 4 ชนิด ได้แก่ Asiaticoside, Madecassoside, Asiatic acid, Madecassic acid สรรพคุณมากมายที่อัดแน่นอยู่ใน Madagascar Centella Asiatica ได้แก่
- ช่วยต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และสมานแผลจากความร้อนหลังการทำเลเซอร์ให้หายเร็วขึ้น
- ช่วยให้รอยแผลเป็นมีขนาดเล็กลง ลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนูน
- ลดรอยหมองคล้ำ รอยดำ รอยแดง ลดการบวมช้ำจากการทำศัลยกรรม ฯลฯ
- ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดโอกาสการเกิดริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง
2. CBD & Hemp
สกินแคร์สายเขียวต้องลองนี่เลยค่ะ น้ำมัน CBD (CBD Oil) และน้ำมันเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) เป็นสารสกัดที่กำลังมาแรงมากในวงการสกินแคร์และเครื่องสำอาง ส่วนมากจะสกัดจากต้นกัญชง (Cannabis Sativa) ให้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่อใช้ผ่านผิวหนังของเรา
น้ำมัน CBD เป็นสารสกัดจากทั้งก้านใบและช่อดอก
- มีคุณสมบัติในการชะลอวัย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด
- ปรับสมดุลความมันของผิว ลดโอกาสการเกิดสิว บรรเทาอาการอักเสบ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้น
- ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา รักษาการติดเชื้อบนผิวหนัง
- ปลอบประโลมผิว บรรเทาอาการระคายเคือง เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย
น้ำมันเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) จะสลัดจากเมล็ดเท่านั้น เป็นแหล่งสารอาหารผิวชั้นดี
- มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายเช่น Omega 6 และ 3, Linoleic Acid ฯลฯ มี Vitamin A & E, Vitamin B รวม และกรดอะมิโนหลายชนิด
- ช่วยรักษาสมดุลการผลิตน้ำมันของผิว ให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นโดยไม่อุดตัน ลดความแห้งกร้าน ต้านการอักเสบ
- ยับยั้งเชื้อ P.acnes ที่ก่อให้เกิดสิว ช่วยให้แผลและรอยดำจากสิวหายเร็วขึ้นด้วย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เสริมความแข็งแรงให้เซลล์ผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย
3. Mullein
สำหรับใครที่ชอบดอกไม้ สารสกัดจากดอกมัลเลน (Mullein Flower Extract) ก็เป็นอีกหนึ่งสารสกัดที่น่าสนใจในสกินแคร์ปีนี้นะคะ ดอกมัลเลนเป็นพืชพื้นเมืองในแถบเอเชียและเมดิเตอเรเนียนที่เราอาจไม่คุ้นหูกันมากนัก แต่ก็เป็นสมุนไพรคุณประโยชน์อัดแน่นที่ใช้ในการแพทย์แผนโบราณ
- ช่วยต้านการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยรักษาผื่น บรรเทาผิวแพ้ง่าย ช่วยปลอบประโลมผิว
- ใช้รักษาบาดแผล และบรรเทาอาการปวด
- น้ำมันจากใบสามารถใช้ทาเฉพาะจุดเพื่อบำรุงให้ผิวนุ่มพร้อมปกป้องผิวได้
- ช่วยปรับผิวให้แลดูกระจ่างใส โดยการดูดซับรังสี UV ที่มองไม่เห็นแล้วเปลี่ยนเป็นแสงที่มองเห็นได้
- ปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์
ทั้งดอกและใบสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันเพื่อเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ ดอกและใบทั้งแบบสดและแบบแห้งยังเป็นส่วนผสมในครีมและโลชั่นได้อีกด้วยนะคะ
4. Plant Placenta
แพลนต์ พลาเซนต้า เป็นหัวใจสำคัญของพืชที่เปรียบได้กับ “รกพืช” อยู่ในเกสรต้นอ่อนพืช (beech bud) มีส่วนประกอบของกรดอะมิโน โปรตีน และเปปไทด์เข้มข้นสูง ทำหน้าที่เป็นของเหลวบำรุงให้พืชเติบโต เมื่อมาอยู่ในสกินแคร์จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
- ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แลดูอ่อนเยาว์
- เติมความชุ่มชื่น ให้ผิวอุ้มน้ำได้ยาวนานขึ้น
- ลดการสร้างเม็ดสี ให้จุดด่างดำดูจางลง ผิวกระจ่างใสขึ้น
- ช่วยลดอาการอักเสบของสิว ปรับสมดุลผิว
- ป้องกันการเกิดริ้วรอย ร่องลึกแลดูตื้นขึ้น
- ปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย บอบบาง
จากผลการทดสอบ In-vivo + In-Vitro ทางคลินิกเผยให้เห็นว่าสารสกัดรกพืชช่วยกระตุ้นการสร้างออกซิเจนให้เซลล์ผิวได้มากถึง +70% และยังกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน อย่างคอลลาเจน อีลาสติน และเคราตินได้ถึง +42%
แล้วในสกินแคร์ที่คุณใช้อยู่ มีส่วนผสมเหล่านี้อยู่ไหม อย่าลืมไปสำรวจโต๊ะเครื่องแป้งดูกันนะคะ อัปเดต Skincare Ingredient Trend กันได้ตลอดที่ All About You เลย!
"