"

ปัญหาสิวอาจไม่ใช่แค่เรื่องสิว ๆ อย่างที่คิด โดยเฉพาะ “สิว” ที่ไม่ได้เกิดแค่บนผิวหน้า แต่กำลังลุกลามไปบนผิวกาย ต้นแขน และหลัง หรือที่เรียกกันว่าBacne (Back + Acne) ซึ่งจัดการได้ยากกว่าสิวบนผิวหน้าซะอีก จนทำให้หลายคนเสียความมั่นใจ ไม่กล้าเปิดเผยผิวให้ใครเห็น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับ สิวหลัง สิวตัว วันนี้ เราจะชวนมาทำความรู้จัก 10 วิธีดูแลรักษาผิวกายให้ห่างไกลสิวกัน รับรองว่าเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณบอกลา Bacne ได้ด้วยตัวเองแน่นอน

 

1.ห้ามบีบสิว หรือรบกวนสิวจนอักเสบ

 

การพยายามบีบสิว รบกวนสิวซ้ำ ๆ ไม่ต่างอะไรกับการซ้ำเติมปัญหาสิว นอกจากความเจ็บปวดจากการกดสิวแล้ว ยังเสี่ยงเกิดแผลและนำไปสู่การติดเชื้อ สิวเกิดซ้ำ สิวหายยากกว่าเดิม ยิ่งสิวหลังและสิวบนตัว จะสังเกตได้ว่ามักเป็นสิวที่ไม่มีหัว มีอาการปวด แต่กดหนองสิวทิ้งไม่ได้ หากพยายามบีบหรือรบกวนสิวบ่อย ๆ ก็มีแต่จะเพิ่มความเจ็บปวดและอาการอักเสบไม่รู้จบ คุณจึงไม่ควรบีบสิว แต่ควรปล่อยให้ร่างกายได้ต่อสู้กับเชื้อสิวเองจนหายดี หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิวเป็นตัวช่วย เพื่อเร่งการรักษา ลดการระคายเคือง โดยไม่รบกวนสิว

 

2.อย่าทิ้งคราบเหงื่อไว้บนผิวกายนานเกินไป

 

เหงื่อ คือสารคัดหลั่งบนร่างกายตามธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว และหลังออกกำลังกาย ร่างกายมักขับเหงื่อออกมามากเพื่อระบายความร้อน ซึ่งการปล่อยให้เนื้อตัวชุ่มเหงื่อ หรือทิ้งคราบเหงื่อให้แห้งหมักหมมไว้บนผิวนาน ๆ จะทำให้ผิวสกปรก รูขุมขนอุดตัน เกิดสิวได้ง่าย ถ้าคุณมีปัญหาสิวหลัง สิวตัวอยู่แล้วก็ยิ่งเป็นสาเหตุให้ปัญหาสิวลุกลาม วิธีดูแลง่าย ๆ คือ เมื่อใดที่เหงื่อออกมาก คุณควรรีบอาบน้ำและเช็คผิวให้แห้ง ถ้าคุณไม่สามารถอาบน้ำได้ อย่างน้อยหลังเหงื่อออกควรเช็ดผิวให้แห้งสะอาดขึ้น หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ หลีกเลี่ยงการทิ้งคราบเหงื่อไว้บนผิว

 

 

3.สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศและความอับชื้นได้ดี

 

เสื้อผ้าที่คับหรือกระชับตัวมากเกินไป เป็นอีกสาเหตุของ Bacne หรือสิวหลัง สิวตัว คุณเคยสังเกตไหมว่า ชุดออกกำลังกายส่วนใหญ่ทอขึ้นจากใยสังเคราะห์ ยืดหยุ่นดี กระชับผิวดี แต่ขณะเดียวกันมันก็กักขังความชื้นไว้ดีมาก ๆ ระบายอากาศได้น้อย ซึ่งการสวมใส่เสื้อผ้ากีฬาเหล่านี้เป็นประจำ มีโอกาสที่ผิวจะเกิดการเสียดสีกับเนื้อผ้าซ้ำ ๆ ก่อเกิดการระคายเคืองผิว ทำให้ผิวเปิดรับเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย รูขุมขนอุดตัน นำไปสู่ปัญหาสิวเช่นกัน ดังนั้น ลองเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่ระบายความอับชื้นได้ดี หรือเสื้อผ้าที่ผลิตจากผ้าฝ้ายและผ้าที่ช่วยดูดซับความชื้น จะช่วยป้องกันผิวกายจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อก่อสิว ช่วยลดการเกิดสิวบนตัว แถมช่วยให้ผิวหนังของคุณได้หายใจด้วย

 

4.ลองงดใช้ “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” ซักเสื้อผ้าดูไหม

 

สิวขึ้นตัวจากการแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นเรื่องหนึ่งที่คนเป็นสิวหลายคนมองข้าม คุณอาจมองว่าการซักผ้าให้สะอาดหอมสดชื่นเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับสภาพผิวของบางคนที่มีอาการแพ้น้ำหอม หรือแพ้สารควอท (Quats) ซึ่งเป็นสารเพิ่มความนุ่มให้เสื้อผ้า อาจส่งผลให้ผิวมีอาการคันระคายเคือง เกิดผดผื่น หรือเกิดเป็นสิวหลัง สิวตัว เพราะฉะนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เป็นสิวจากอาการแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ลองงดใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มซักผ้าสักพัก แล้วสังเกตว่าสิวบนตัวของคุณลดลงบ้างหรือไม่

 

 

5.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและเส้นผมที่มาจากธรรมชาติ

 

หลายครั้งที่ปัญหาสิวหลัง สิวตัว เกิดขึ้นง่าย ๆ จากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว สบู่ แชมพู และครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายมากเกินไป ทำให้สารเคมีตกค้างบนผิว นอกจากนี้ บางผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ไม่เหมาะกับค่า pH บนผิวกาย (ค่า pH เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ ~5.5-6) ส่งผลให้ความเป็นกรด-เบสบนผิวไม่สมดุล แถมยังไปชะล้างทำลายจุลินทรีย์ตัวดีบนผิวกาย (Microbiome) ทำให้เสียสมดุลจุลินทรีย์บนร่างกาย ก่อเกิดเป็นสิวและปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังต่าง ๆ ดังนั้น คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว มีค่า pH ที่เป็นกรด-เบสอ่อน ๆ หรือมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ (Natural Ingredient) 

 

6.ขณะอาบน้ำให้ขัดผิวกายเบา ๆ ด้วยผ้านุ่ม ๆ

 

หลังออกไปเผชิญมลภาวะในแต่ละวัน ผิวหนังจะสะสมฝุ่น สิ่งสกปรก แบคทีเรีย ไขมันส่วนเกิน และคราบเหงื่อไคลเอาไว้ แม้ว่าคุณพยายามทำความสะอาดผิวดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ทั่วถึงทุกซอกมุม ผิวหนังของคุณก็อาจกลายเป็นพื้นที่เพาะสิวได้นะ คุณจึงควรใช้แปรงขัดหลัง หรือผ้าขัดผิวนุ่ม ๆ (Washcloth) เป็นตัวช่วยขัดผิวกายเพิ่มเติมและในจุดที่มือของเราซอกซอนไม่ถึง ด้วยการอาบน้ำฟอกสบู่ทิ้งไว้สักพักให้ผิวชุ่มน้ำกำลังดี แล้วจึงใช้ผ้านุ่มจุ่มน้ำหมาด ๆ ขัดผิวกายวนเป็นวงกลมให้ทั่วตัวเบา ๆ และระวังอย่าถูแรงจนเกินไป การขัดผิวลักษณะนี้ไม่เพียงช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิว แต่ยังช่วยกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนดีขึ้นคล้ายกับการนวดสปา หรือถ้าใครชอบแช่น้ำอุ่นก่อนขัดผิว วิธีนี้ก็จะช่วยขจัดคราบเหงื่อไคลได้ดีมาก ทำให้ผิวของคุณเผยความกระจ่างใส เปลั่งปลั่งได้มากกว่าเดิมด้วย

 

7.หมั่นสครับผิวหลังสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและสิ่งสกปรก

 

ว่ากันว่าร่างกายคนเราจะเกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก ๆ 28 วัน จึงทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว (Dead Skin Cell) กลายเป็นขี้ไคลและสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิว หากเซลล์ผิวเหล่านั้นไม่ได้รับการผลัดออกไป อาจหมักหมม อุดตันรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวบนตัวได้ง่ายมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Bacne” หรือสิวที่ขึ้นบนแผ่นหลัง ฉะนั้น คุณควรหมั่นสครับผิวบริเวณแผ่นหลังอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยเคลียร์เซลล์ผิวตกค้างและป้องกันผิวจากการอุดตันของสิ่งสกปรกบนร่างกาย โดยเลือกใช้สบู่สครับสำหรับขัดผิวโดยตรง หรือจะเป็นสบู่ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยดักจับไขมัน สิ่งสกปรก แล้วชำระล้างออกจากผิวก็ได้

 

8.เลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก

 

ลองหันมาใช้ “สบู่ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก” ช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียและคราบไขมันส่วนเกินที่ก่อให้เกิดสิวบนตัว สิวหลังดูบ้าง เพราะ Salicylic Acid เป็นหนึ่งใน BHA ตัวดังที่มีความเป็นกรดอ่อน ๆ สามารถแทรกซึมผิวหนังและรูขุมขน เพื่อตรงเข้าไปจับตัวกับไขมันส่วนเกิน (Sebum) และเซลล์ผิวตกค้าง แล้วสลายสิ่งสกปรกออกจากผิวของคุณได้ดีมาก กรดซาลิไซลิกจึงถูกยกให้เป็นส่วนผสมสำคัญของวงการสกินแคร์ มีสรรพคุณช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ยับยั้งวงจรสิวเกิดใหม่ ลดการเกิดสิวอุดตัน เหมาะกับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ที่ต้องการกรดอ่อน ๆ มาช่วยขจัดแบคทีเรียออกจากผิวและลดการเกิดสิวอย่างอ่อนโยน

 

9.หลังฟอกสบู่ที่มีกรดซาลิไซลิกให้ทิ้งไว้ 3-4 นาที ก่อนล้างน้ำออก

 

วิธีใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกแก้ปัญหาสิวหลัง สิวตัวให้ได้ผล คือ หลังจากฟอกสบู่ให้ทั่วทั้งตัวแล้ว คุณต้องทิ้งฟองสบู่เอาไว้บนผิวประมาณ 3-4 นาที (ร้องเพลงฆ่าเวลาไปสักพลง) เพื่อให้กรดซาลิไซลิกได้มีเวลาแทรกซึมรูขุมขน และทำหน้าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สลายสิ่งสกปรกตกค้างออกจากผิวหนังของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้ผิวของคุณสะอาดมากขึ้น สิวเกิดใหม่ลดลง และเพื่อป้องกันการเกิด Bacne ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คุณควรเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวบ่อย ๆ ไม่ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเก่าซ้ำ ๆ เพราะมันอาจมีเชื้อแบคทีเรียตกค้าง ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวบนตัวได้เช่นกัน

 

10.เสริมความแข็งแรงให้ผิวสุขภาพดีด้วย “โพรไบโอติกส์”

 

การเสียสมดุลของจุลินทรีย์บนผิวหนัง (Microbiome) เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวหลัง สิวตัว ว่ากันว่าบนผิวของคนเรามีจุลินทรีย์อาศัยอยู่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่หลายครั้งการอาบน้ำด้วยสบู่ที่มีค่า pH ไม่เหมาะสม จะเป็นตัวทำลายจุลินทรีย์บางตัวบนผิว และส่งผลให้จุลินทรีย์ที่เหลือกลายเป็นเชื้อสิวในที่สุด รวมถึงการที่ร่างกายขาดสมดุลจุลินทรีย์บนผิวหนังที่เหมาะสม วิธีแก้ไขง่าย ๆ คือคุณต้องกินอาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูงให้มากขึ้น เช่น ผัดกาดดอง กิมจิ มิโซะ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว คอจเทจชีส เทมเป้ ฯลฯ เพื่อเพิ่มสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย ส่งผลให้สุขภาพผิวดีและแข็งแรงตามไปด้วย โอกาสเกิดสิวก็ลดน้อยลง 

 

นอกจากนี้ คุณอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มี “พรีไบโอติกส์” (Prebiotics) เพื่อเพิ่มอาหารให้จุลินทรีย์บนผิวกายจากภายนอกก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ อย่าง Kraam Acne Clear Body Spray สูตร Orange Seed & Salicylic Acid สเปรย์ลดสิว ใช้ฉีดพ่นลงบนผิวจะช่วยเพิ่มพรีไบโอติกส์ให้แก่จุลินทรีย์ตัวดีบนผิวของคุณ แนะนำให้ใช้คู่กับ Kraam Acne Clear Body Wash เจลอาบน้ำที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก ช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวหลัง สิวตัว และปรับสมดุลผิวไปพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างผิวกายของคุณให้แข็งแรง สุขภาพ ต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียได้ดีขึ้น ห่างไกลสิวหลัง บอกลาสิวบนตัว พร้อมเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสได้อย่างมั่นใจ 

"