เคล็ดลับดูแลผิวพิชิตสิวผดช่วงหน้าร้อน
หน้าหนาวผ่านไปไวมาก ใกล้เข้าเดือนเมษายน ก้าวเข้าสู่หน้าร้อนแบบเต็มตัว All About You ชวนพี่ๆ เตรียมรับมือ!! เพราะแดดประเทศไทยนั้นไม่เคยปราณีใคร ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนและแสงแดดทำให้ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อออกมามากเกินไป เมื่อเหงื่อไม่สามารถระบายออกได้ทัน ก็จะเกิดการอุดตันในรูขุมขน กลายเป็น “สิวผด” ในที่สุด เมื่อไหร่ที่สัมผัสใบหน้าแล้วรู้เป็นเม็ดๆ ไม่เรียบเนียน สันนิษฐานได้ว่าสิวผดเริ่มมาเยือนใบหน้าเราแล้ว
ผิวผดเกิดจากอะไร?
สิวผดที่ขึ้นบนใบหน้ามีสาเหตุหลายประการ โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกตัวสำคัญ ที่ทำให้เกิดสิวผดมีดังนี้
1. สภาพอากาศ อากาศที่ร้อนจัดจะกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อให้ผลิตเหงื่อออกมามากกว่าปกติ เมื่อเหงื่อไม่สามารถระบายออกได้ทันก็จะเกิดการอุดตันในรูขุมขน กลายเป็นสิวผดในที่สุด มักพบในฤดูร้อน
2. แสงแดด รังสี UV ในแสงแดดสามารถกระตุ้นการสร้างสิวผดได้
3. ความอับชื้น เหงื่อที่ระบายออกไม่ทันจะทำให้เกิดความอับชื้นบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
4. ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม หรือการเช็ดถูผิวหน้าแรง ๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นสิวผดได้
5. เชื้อรา สิวผดบางชนิดมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อรา Malassezia globosa ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบได้ตามธรรมชาติบนผิวหนัง แต่หากมีปริมาณมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดสิวผดได้
6. การแพ้ การแพ้เครื่องสำอาง สารเคมี หรือส่วนประกอบบางชนิดในผลิตภัณฑ์ ก็เป็นสาเหตุของสิวผดได้เช่นกัน
โดยพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างก็อาจมีส่วนทำให้เกิดสิวผดได้ เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือการดื่มน้ำน้อย เป็นต้น
วิธีป้องกันสิวผด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
- ทำความสะอาดผิวหน้า ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว และเช็ดหน้าให้แห้ง
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายและผิวพรรณแข็งแรงขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการเกิดสิว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นสิวได้
- ปรึกษาแพทย์ หากสิวผดมีอาการรุนแรง หรือไม่หายไปหลังจากดูแลตัวเองแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
การดูแลผิวพิชิตสิวผด
การรักษาสิวผดด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำได้โดยเริ่มต้นจากการดูแลความสะอาดผิวหน้าอย่างเหมาะสม และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีแนวทางง่าย ๆ ดังนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ปราศจากสบู่และแอลกอฮอล์ เลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน หลังล้างหน้า ซับผิวให้แห้งเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนูสะอาด
2. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด แสงแดดเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดสิวผด ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ปกป้องผิวจากรังสี UV ก่อนออกแดด
3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิว เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil-free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) เพื่อลดโอกาสการอุดตันของรูขุมขน
4. พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนที่เพียงพอมีความสำคัญต่อสุขภาพผิว ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวผดได้
5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน และลดโอกาสการเกิดสิว
6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ อาจนำสิ่งสกปรกและแบคทีเรียเข้าสู่ผิว ทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวได้
7. ประคบเย็น ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่เป็นสิวผด ประมาณ 10-15 นาที จะช่วยลดการอักเสบและรอยแดงได้
8. ไม่บีบ หรือแกะสิว การบีบ หรือแกะสิวเอง อาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น และทิ้งรอยแผลเป็น ควรปล่อยให้สิวหายเอง หรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
10 สกินแคร์สิวผดควรใช้แบบไหนดี?
ผิวที่มีความเซนซิทีฟ ควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่เป็นสารเคมี เพราะสิ่งนี้จะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองจากสิวผดอาจจะกลายเป็นสิวอักเสบได้ วันนี้จึงขอมาแนะนำสกินแคร์ทางเลือกใหม่ เป็นสกินแคร์ออร์แกนิค ที่มีส่วนผสมของธรรมชาติเป็นหลัก และปราศจากสารกระตุ้นการระคายเคือง มีอะไรกันบ้ามาดูกันค่ะ
1. Beauty of Joseon Green Plum Refreshing Toner AHA + BHA
โทนเนอร์สารสกัดจากกรีนพลัม ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว คืนความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติสู่ผิวคุณอย่างอ่อนโยนAHA และ BHA กรดไกลโคลิก 2% และกรดซาลิไซลิก 5% ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมฟื้นคืนความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติสู่ผิวคุณGreen Plum Toner เหมาะสำหรับใช้ในตอนเช้าและเย็น เป็นขั้นตอนแรกของการดูแลผิว เพื่อขจัดสิ่งที่ตกค้าง และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน โดยใช้สำลีชุบโทนเนอร์แล้วเช็ดผิวจากด้านในออกด้านนอกอย่างเบามือ ไม่เพียงทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก แต่ยังช่วยบำรุงผิว เตรียมความพร้อมให้ผิวดูดซึมผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนต่อไปได้ดีขึ้น
2. AXIS-Y PHA Resurfacing Glow Peel
ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และปรับสมดุลผิว PHA 10% ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทำความสะอาดรูขุมขน เผยผิวที่อ่อนเยาว์ด้วยสารสกัดจากผักและผลไม้ 5 ชนิด ช่วยปลอบประโลมผิวให้กระจ่างใสตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ สารสกัดจากแตงกวา มะละกอ และใบบัวบก ช่วยบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งแลดูสุขภาพดี
3. SKIN1004 Madagascar Centella Tea Trica Relief Ampoule 100 ml
ทีทริก้า รีลีฟ แอมพูล สูตรผิวเป็นสิวง่าย ด้วยส่วนคุณค่าของ Tea-Trica 80%
4. Beauty of Joseon Glow Serum Propolis + Niacinamide
โกลว์ เซรั่ม โพรโพลิส + ไนอะซินาไมด์ ช่วยกระชับรูขุมขนและช่วยลดการอักเสบของผิว พร้อมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวPropolis 60% ช่วยต้านอนุมูลอิสระ Niacinamide 2% เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการสูญเสียน้ำใต้ชั้นผิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
5. JUV Skin Barrier Cica Ampoule + Sea glow & Lava-skinbio 50 ml
ผลิตภัณฑ์แอมพูลบำรุงผิวหน้า ด้วยพลังของ Centella Asiatica สารสกัดบริสุทธิ์จากมาดากัสการ์ ช่วยดูแลผิวที่อ่อนแอ ลดปัญหาผิวที่เกิดจากสิว ลดการอักเสบ ลดเลือนรอยแผลเป็น ลดรอยดำรอยแดง ผสานพลังด้วย EPS SEAGLOW ช่วยให้ผิวแลดูขาวใสอมชมพู และ Lava-Dermabiotics GN (Probiotic Ferment) ฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนเสริมสร้างความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวจากสิ่งระคายเคืองภายนอก ให้ผิวแข็งแรงขาวกระจ่างใสอมชมพูเหมือนมีเลือดฝาด ดูมีสุขภาพดี
6. Hue Calm Birch Hydratin Mask
ผลิตภัณฑ์มาส์กผิวหน้านำเข้าจากประเทศเกาหลี สูตรวีแกน อ่อนโยนต่อผิวหน้า เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย และช่วยลดอุณหภูมิผิวลงทันที พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้น ให้ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประกอบด้วยน้ำเลี้ยงจากต้นเบิร์ช
7. CeraVe Oil Control Moisturising Gel Cream
เซราวีมอยซ์เจอไรซิ่ง เจล-ครีม ที่ออกแบบมาเพื่อผิวผสม-ผิวมัน พร้อมเนื้อสัมผัส บางเบา ซึมไว รู้สึกสดชื่น สบายผิวไม่เหนอะหนะ เซราวีผสานเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด ** พร้อมอนุพันธ์ไฮยาลูรอนิก แอซิด เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้น และเซราไมด์ให้ผิวรวมทั้งเสริมปราการปกป้องผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวชุ่มชื้น ดูเนียนนุ่ม คุมมัน’ กันสิว++ ปราการผิวแข็งแรง
8. Kindness Peace Pore Detoxifying Serum
เซรั่มดีท็อกซ์รูขุมขน เคลียร์ผิวสงบ ผิวเนียน รูขุมขนกริบ เนื้อบางเบาและอ่อนโยน สำหรับผิวที่ต้องการปรนนิบัติเป็นพิเศษ
9. Thayers Rose Petal Witch Hazel Toner
โทนเนอร์ปรับสภาพผิวสูตร Rose Petal Witch Hazel ผสมน้ำดอกกุหลาบ และว่านหางจระเข้ ช่วยฟื้นฟูผิวที่ขาดน้ำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ สมานแผล ลดอาการแพ้อักเสบของผิว กระชับรูขุมขน ปรับสมดุลการผลิตน้ำมันของผิว และช่วยต้านอนุมูลอิสระ สาเหตุของริ้วรอย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวและช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น
10. Seno Veggie Mask
"มาส์กสมุนไพรซินผัก" สารสกัดธรรมชาติ 100% ตัวช่วยกู้ผิวเสีย ช่วยลดอาการอักเสบของสิว ลดความมัน กระชับรูขุมขน ดีทอกซ์ผิว
ข้อควรจำเกี่ยวกับการดูแลสิวผด
1. การรักษาสิวผดต้องใช้เวลาและความอดทน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
2. ไม่ควรบีบ หรือแกะสิวผด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและเป็นรอยแผลเป็นได้
3. หากใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแล้วเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันที และปรึกษาแพทย์
สรุป
สภาพอากาศที่ร้อนและแสงแดดทำให้ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อมากเกินไป จนเกิดการอุดตันในรูขุมขน และกลายเป็น “สิวผด” การรักษาไม่ยากแต่ควรมีวินัยเพราะต้องใช้เวลา ดังนั้นการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ ด้วยการหลีกเลี่ยงสารเคมี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวเพียงเท่านี้ สิวผด ก็จะกลายเป็นปัญหาเล็กๆ ของใบหน้าเราค่ะ