"

ส่องพลังปกป้องผิวจาก UV ในโลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนมของ The 28

เคยได้ยินคนพูดว่า 10 ครีมบำรุงผิว ไม่เท่าครีมกันแดดดี ๆ 1 ตัว เรื่องนี้คงไม่ได้เกินจริง เพราะรังสี UV จากแสงแดดทำลายผิวของเราได้มากกว่าที่คิด ยิ่งในเขตร้อน แดดจัด ๆ แบบเมืองไทย การออกไปเจอแสงแดดในช่วง 09.00 – 16.00 น. ที่มีรังสี UV เข้มข้นมากที่สุด อาจเสี่ยงผิวไหม้หมองคล้ำ สูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้มาก ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็ว และเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ง่ายยิ่งขึ้น การทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ

ครีมกันแดดทั่วไป แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ Chemical Sunscreen ช่วยดูดซับรังสี UV ไม่ให้ทะลุผ่านไปสัมผัสกับชั้นผิวหนังมากเกินไป เนื้อครีมบางเบา ทาง่าย แต่ก็แพ้ง่ายด้วย และ Physical Sunscreen ทำหน้าที่เสมือนเกราะสะท้อนรังสี UV ออกไปจากผิวหนัง ปกป้องผิวจาก UVA และ UVB ได้ครอบคลุมมากกว่า แต่เนื้อครีมหนา ทาแล้วหน้าขาววอกไม่เป็นธรรมชาติ 

 

จากข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน จึงมีการพัฒนา Hybrid Sunscreen ขึ้นมา เพื่อรวมประสิทธิภาพครีมกันแดดทั้งสองชนิดเอาไว้ในหนึ่งเดียว อย่าง The 28 Proteccion UV CUT Water screen SPF 50+ PA++++ โลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนมที่สามารถกันแดดได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยทั้งดูดซับและสะท้อนรังสี UV ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของส่วนผสมสำคัญที่เรียกว่า Tinosorb M หรือ Methylene Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol (MBBT) นวัตกรรมสารกันแดด UVA & UVB ในช่วงกว้าง (Broad Spectrum) ที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน

 

 

Tinosorb M ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA-I, UVA-II และ UVB ได้อย่างล้ำลึกด้วยค่า SPF และ PA สูง มีอนุภาคระดับนาโน กระจายตัวได้ดีใน Sunscreen สูตรน้ำ ทำให้ทากันแดดได้ง่ายขึ้น ไม่เยิ้ม ผิวไม่วอก และช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำ ลดเลือนริ้วรอย ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ

The 28 Proteccion UV CUT Water screen SPF 50+ PA++++ ยังเป็น Hybrid Sunscreen ที่ผ่านการรับรองจากสถาบัน CAHB แล้วว่า สามารถช่วยลดอนุมูลอิสระ (Free radical) ได้ถึง 92% และลด Cell membrane damaging molecules ได้ 34% ทำให้ความชุ่มชื้นและสารอาหารผิวซึมผ่านสู่เซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้น ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว อีกทั้งไม่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตราย ดีต่อผิว พกเพียงขวดเดียวก็พร้อมสู้แดดได้อย่างสบายใจ

 

Tip : ทาโลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนมของ #The28 ทั่วผิวหน้าและลำคอก่อนออกแดด 20 นาที หรือทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากผิวต้องสัมผัสกับแสงแดดต่อเนื่อง หรือมีเหงื่อออกมาก

"